ในสภาวะที่เศรษฐกิจอเมริกันกำลังซบเซาอยู่ในเวลานี้ มีผลสำรวจพบว่าชาวอเมริกันหาทางระบายความเครียดและสร้างความสบายใจ ด้วยการทานมากขึ้น แต่สิ่งที่ตามมาคือความอ้วน ทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการต้องออกมาเตือน
ในสภาวะที่เศรษฐกิจสหรัฐซบเซาอยู่ในขณะนี้ ผู้บริโภคชาวอเมริกันที่มีความวิตกกังวลเรื่องการใช้จ่ายเงิน มักจะเดินเข้าห้างสรรพสินค้า และหาอาหารอร่อยๆ มาทานเพื่อทำให้รู้สึกดีขึ้น แต่อาหารเหล่านั้นมีไขมันสูง
หนังสือพิมพ์วอชิงตัน ไทมส์ ในสหรัฐฯ ได้ไปสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ เตือนว่า อาหารที่หาทานกันได้ง่ายๆ เช่น เค้กซักชิ้นหรือแฮมเบเกอร์ขนาด 3 ชั้น แม้ทำให้เกิดความสบายใจและรู้สึกอิ่มท้องโดยทันที แต่ก็ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ เพราะทำให้อ้วน ซึ่งเป็นบ่อเกิดของโรคภัยต่างๆ ตามมา และเมื่อบวกกับความเครียดความวิตกกังวลที่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็ยิ่งบั่นทอนสุขภาพมากขึ้นตามไปด้วย
นอกจากการกินที่ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพแล้ว ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกันยายนก็มีผลสำรวจของบริษัทที่ปรึกษา บูซ แอนด์ กัมปะนี พบว่า ผู้บริโภคชาวอเมริกันกว่าร้อยละ 30 ตัดลดการทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อประหยัดเงินในช่วงที่สภาวะเศรษฐกิจไม่แน่นอน ในจำนวนนี้ รวมถึงการลดเงินที่จ่ายเป็นค่าสมาชิกสโมสรสุขภาพ
ทางด้านผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ ที่รัฐนอร์ท แคโรไลนา บอกว่า ผลสำรวจนี้พอทำให้เกิดความหวังอยู่บ้าง ที่จะเป็นเครื่องเตือนผู้บริโภคให้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม เพราะหากมัวแต่หาของรับประทานที่ราคาถูกแต่ทำให้อิ่มท้อง โดยที่ไม่คำนึงถึงหลักโภชนาการ ก็อาจจะเข้าทำนองเสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่ายๆ ก็ได้
E-mail
พิมพ์
